(Dependent Origination)

(Paticcasamuppada)

เมื่อปัจจัยนี้มีอยู่ ผลนี้ย่อมมี เพราะการบังเกิดขึ้นแห่งปัจจัยนี้ ผลนี้จึงบังเกิดขึ้น

เมื่อปัจจัยนี้ไม่มีอยู่ ผลนี้ย่อมไม่มี เพราะการดับแห่งปัจจัยนี้ ผลนี้จึงดับ ข้อนี้คือ

เพราะ อวิชชา เป็นปัจจัย จึงมี สังขาร
เพราะ สังขาร เป็นปัจจัย จึงมี วิญญาณ
เพราะ วิญญาณ เป็นปัจจัย จึงมี นามรูป
เพราะ นามรูป เป็นปัจจัย จึงมี สฬายตนะ
เพราะ สฬายตนะ เป็นปัจจัย จึงมี ผัสสะ
เพราะ ผัสสะ เป็นปัจจัย จึงมี เวทนา
เพราะ เวทนา เป็นปัจจัย จึงมี ตัณหา
เพราะ ตัณหา เป็นปัจจัย จึงมี อุปาทาน
เพราะ อุปาทาน เป็นปัจจัย จึงมี ภพ
เพราะ ภพ เป็นปัจจัย จึงมี ชาติ
เพราะ ชาติ เป็นปัจจัย จึงมี ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส

ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้

อนึ่ง เพราะ อวิชชา นั่นแหละดับโดยไม่เหลือด้วยมรรค คือ วิราคะ สังขารจึงดับ
เพราะ สังขาร ดับ วิญญาณ จึงดับ
เพราะ วิญญาณ ดับ นามรูป จึงดับ
เพราะ นามรูป ดับ สฬายตนะ จึงดับ
เพราะ สฬายตนะ ดับ ผัสสะ จึงดับ
เพราะ ผัสสะ ดับ เวทนา จึงดับ
เพราะ เวทนา ดับ ตัณหา จึงดับ
เพราะ ตัณหา ดับ อุปาทาน จึงดับ
เพราะ อุปาทาน ดับ ภพ จึงดับ
เพราะ ภพ ดับ ชาติ จึงดับ
เพราะ ชาติ ดับ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส จึงดับ

ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้

 

See also :

The Twelve Links of Interdependent Origination